สาระความรู้งานถมที่ดิน

การคำนวณคิวดิน ในการถมดิน

การคำนวณเพื่อหาปริมาณการใช้ดิน หรือ จำนวน “คิวบิกเมตร” หรือ “ลูกบาศก์เมตร” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “คิว” คือ ขนาด กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร สูง 1 เมตร ดังนั้น ในการคำนวณปริมาณการใช้ดินในการถม จะคำนวณจาก ความกว้าง คูณ ความยาว คูณ ความสูง ในหน่วยของเมตร ก็จะได้ปริมาณ ว่าใช้ กี่ลูกบาศก์เมตร หรือ ใช้กี่คิว เพื่อนำไปคำนวณ คิวละ หรือ คันละ กี่คิว

มาตราวัดพื้นที่ไทย

  • 1 ไร่ คือ 400 ตารางวา หรือ 1,600 ตารางเมตร
  • 1 งาน คือ 100 ตารางวา หรือ 400 ตารางเมตร
  • 1 ตารางวา คือ 4 ตารางเมตร (หรือ กว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร)

ตัวอย่างการแปลงขนาดพื้นที่ เป็น ตารางเมตร

ตัวอย่างที่หนึ่ง

ขนาดพื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา เท่ากับกี่ตารางเมตร

  • 2 ไร่ = 2 x 1,600 = 3,200 ตารางเมตร
  • 3 งาน = 3 x 400 = 1,200 ตารางเมตร
  • 48 ตารางวา = 48 x 4 = 192 ตารางเมตร

ดังนั้น 2 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา = 3,200+1,200+192 = 4,592 ตารางเมตร

ตัวอย่างที่สอง

ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา เท่ากับกี่ตารางเมตร

  • 1 ไร่ = 1 x 1,600 = 1,600 ตารางเมตร
  • 1 งาน = 1 x 400 = 400 ตารางเมตร
  • 15 ตารางวา = 15 x 4 = 60 ตารางเมตร

ดังนั้น 1 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา = 1,600+1,200+60 = 2,860 ตารางเมตร

ตัวอย่างที่สาม

ขนาดพื้นที่ 2 งาน 70 ตารางวา เท่ากับกี่ตารางเมตร

  • 2 งาน = 2 x 400 = 800 ตารางเมตร
  • 70 ตารางวา = 70 x 4 = 280 ตารางเมตร

ดังนั้น 2 งาน 70 ตารางวา = 800+280 = 1,080 ตารางเมตร

เมื่อ ขนาดพื้นที่ หรือ กว้างคูณยาว หรือ ตารางเมตร คูณความสูงที่ต้องการถม จะได้ ปริมาณ ลูกบาศก์เมตร หรือ คิว ในการถมที่ดิน

ตัวอย่างที่หนึ่ง ขนาด 2 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา หรือเท่ากับ 4,592 ตารางเมตร

  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.5 เมตร (50 เซ็นติเมตร) จะใช้ 4,592 x 0.5 = 2,296 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.7 เมตร (70 เซ็นติเมตร) จะใช้ 4,592 x 0.7 = 3,214.4 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1 เมตร (100 เซ็นติเมตร) จะใช้ 4,592 x 1 = 4,592 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1.5 เมตร (150 เซ็นติเมตร) จะใช้ 4,592 x 1.5 = 6,888 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 2 เมตร (200 เซ็นติเมตร) จะใช้ 4,592 x 2 = 9,184 คิว

ตัวอย่างที่สอง ขนาด 1 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา หรือเท่ากับ 2,860 ตารางเมตร

  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.5 เมตร (50 เซ็นติเมตร) จะใช้ 2,860 x 0.5 = 1,430 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.7 เมตร (70 เซ็นติเมตร) จะใช้ 2,860 x 0.7 = 2,002 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1 เมตร (100 เซ็นติเมตร) จะใช้ 2,860 x 1 = 2,860 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1.5 เมตร (150 เซ็นติเมตร) จะใช้ 2,860 x 1.5 = 4,290 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 2 เมตร (200 เซ็นติเมตร) จะใช้ 2,860 x 2 = 5,720 คิว

ตัวอย่างที่สาม ขนาด 2 งาน 70 ตารางวา หรือเท่ากับ 1,080 ตารางเมตร

  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.5 เมตร (50 เซ็นติเมตร) จะใช้ 1,080 x 0.5 = 540 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 0.7 เมตร (70 เซ็นติเมตร) จะใช้ 1,080 x 0.7 = 756 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1 เมตร (100 เซ็นติเมตร) จะใช้ 1,080 x 1 = 1,080 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 1.5 เมตร (150 เซ็นติเมตร) จะใช้ 1,080 x 1.5 = 1,620 คิว
  • ถ้าต้องการถมดินสูง 2 เมตร (200 เซ็นติเมตร) จะใช้ 1,080 x 2 = 2,160 คิว

เมื่อเราได้จำนวนคิวในภาคทฤษฎี เราจะนำตัวเลขมาคำนวณในภาคปฏิบัติ นั่นคือ นำตัวเลขมาคูณ 1.2 ซึ่งเป็นค่า การบดอัดดิน และ การยุบตัวของดินเดิม เมื่อมีน้ำหนักมากดทับ

ตัวอย่างเช่น

  • ขนาด 2 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา ถมสูง 1.5 เมตร จะใช้ดิน 6,888 x 1.2 = 8,265.6 คิว
  • ขนาด 1 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา ถมสูง 1 เมตร จะใช้ดิน 2,860 x 1.2 = 3,432 คิว
  • ขนาด 2 งาน 70 ตารางวา ถมสูง 0.5 เมตร จะใช้ดิน 540 x 1.2 = 648 คิว

ดังนั้น เราสามารถนำจำนวน คิวดิน ที่ต้องการถม ไปคำนวณกับ ราคา ถมดิน คิวละ หรือ ราคา ถมดิน คันละ ได้


ดินถมทั่วไป คืออะไร และ ที่มา

ดินถมทั่วไป เป็นดินที่นำมาใช้ในการถมดินสร้างบ้าน เป็นส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่มาเป็นดินที่ต้องการนำออก เมื่อมีการสร้าง คอนโด อพาร์ทเม้นท์ขนาดใหญ่ หรือ การขุดห้องใต้ดิน ลานจอดรถใต้ดิน ของตึก หรือ ห้างสรรพสินค้า ซึ่งจำเป็นต้องนำดินออกนอกพื้นที่ เป็นดินราคาถูก ชนิดของดินเป็นเหนียว สีดำ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับการถมดินสร้างบ้าน ราคาถูก (ถูกกว่า ดินที่นำเข้าจากบ่อดิน ซึ่งจะราคาแพงกว่า และ ต้องขนส่งในระยะทางไกล)

ดินถมทั่วไป มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ดินดำ ดินชั้นสอง ดินไซด์งานก่อสร้าง ดินฟุตติ้ง

ดินถมทั่วไป อยู่บนท้ายรถบรรทุก ดินถมทั่วไป เมื่อนำมาถมดินปรับแปลง

ข้อมูลเบี้องต้น ที่ต้องการทราบ สำหรับการประเมิน ราคา ถมดิน

เราสามารถประเมิน ราคา ถมดิน ทางโทรศัพท์ในคุณได้ โดยเราต้องการทราบข้อมูลเบี้องต้น สำหรับประเมิน ราคา ค่าถมดิน คือ

  • ตำแหน่งที่ดิน : ซึ่งจะช่วยประเมินระยะทางในการส่งดิน จากบ่อดิน ถึงแปลงที่ดิน
  • ขนาดของที่ดิน : ใช้ในการคำนวณว่าจะต้องใช้ปริมาณดินเท่่าไร ในการถม
  • ระดับความสูงในการถม : ท่านเจ้าของที่ อาจจำเป็นต้องกะคราวๆ ว่าถมจากดินเดิมซักเท่าไร เช่น ระดับหัวเข่า เอว หัวไหล่
  • ชนิดของดิน หรือ สิ่งปลูกสร้างที่ต้องการ : เช่น ดินถมทั่วไป ดินดำ เพื่อสร้างบ้าน, ดินลูกรัง หินคลุก ทำลานจอดรถ

ถมดินหน้าฝน ได้ไหม

สำหรับการถมดินสร้างบ้าน ได้ครับ ได้แน่นอน ส่วนใหญ่การถมที่ดินสร้างบ้าน จะใช้ดินถมทั่วไป หรือ ดินดำ ราคาถูก ซึ่งจะเหมาะสำหรับ การสร้างบ้าน และ ปลูกต้นไม้ เราสามารถใช้แมคโครในการปรับแปลง ตบบดอัดได้

สำหรับ งานที่ไม่เหมาะสมในการทำช่วงหน้าฝน คือ งานสร้างถนน ลานจอดรถ ที่จำเป็นต้องใช้ ดินลูกรัง หรือ ดินดาน ซึ่งจำเป็นจะต้องบดอัดให้ดี คุณภาพวัสดุต้องมีความแห้ง พอเหมาะในการบดอัด


ควรถมดินก่อนสร้างบ้าน หรือ สร้างบ้านก่อนถมดิน

คำตอบคือ ควรถมดินก่อนสร้างบ้านครับ
ข้อดีข้อเสีย ของการถมดินก่อนสร้างบ้าน จะช่วยให้ดินยุบตัวได้ดี แน่นกว่า สร้างบ้านก่อนถมดิน ราคาค่าถมดิน ถูกว่า เนื่องจากขั้นตอนการทำงานง่ายกว่า บดอัดดินได้ดีกว่า แต่ในส่วนที่มีความคิดว่า ตรงกลางบ้านไม่จำเป็นต้องมีดิน หรือ สามารถใช้ดินที่เกิดจากการขุดเสาเข็มมาใช้ได้ ช่วยให้ประหยัดนั้น เป็นขั้นตอนที่ทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว เป็นแนวคิดการสร้างบ้านแบบเก่า จะเกิดหลุมใต้บ้าน เกิดน้ำขัง น้ำเสีย มีความชื้น ทำให้สกปรก ทำความสะอาดยาก เจ้าของบ้านไม่สบายบ่อย เนื่องจากความชื้น และ อื่นๆ ซึ่งในปัจจุบัน การสร้างบ้านแบบใหม่ จะเติมดินใต้บ้านจนเต็มถึงระดับหลังคานคอดิน ไม่ให้เกิดน้ำขัง หรือ นก หนู และ สัตว์ต่างๆ มาทำรังได้ และ ช่วยลดปัญหาดินทรุดตัวรอบบ้าน

การที่ผู้รับเหมาสร้างบ้าน ต้องการให้ถมที่ดิน หลังการตอกเสาเข็มเสร็จ หรือ สร้างบ้านเสร็จแล้วนั้น ผู้รับเหมาสร้างบ้าน เพียงต้องการลดงานขุดดิน ทำตอหม้อ หรือ คานคอดินลง แต่ค่าถมดินหลังการสร้างบ้าน จะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก การถมดิน ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามาทำงาน แต่ขณะการทำงานมีเสาเข็มตอกใหม่ที่ต้องระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหาย จึงทำให้บดอัดดินได้ไม่ดี หรือ บดอัดไม่ได้เลย หรือ ไม่ดีเท่าการถมดินก่อนสร้างบ้าน ระยะเวลาในการทำงาน นานขึ้น จึงเป็นการผลักภาระค่าใช้จ่าย ให้เจ้าของบ้าน

อีกทั้งในกรณีที่ว่า สร้างบ้านก่อน จะมีดินออกมาหลังจากการขุดเสาขุดเสาเข็มนั้น ทำให้ใช้ดินในการถมน้อยลง ทำให้ประหยัดขึ้นนั้น  เป็นมุมมองที่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริง การถมดินก่อนการสร้างบ้าน เราจะถมดินให้ได้ระดับนึง และ เผื่อที่จะนำดินที่ได้จากการขุดเสาเข็มมาใช้ด้วย ดังนั้น ในกรณีนี้ ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดขึ้นเลย อีกทั้งราคาจะแพงขึ้นด้วย และ ยังบดอัดได้ไม่ดี เท่าการถมดินก่อนสร้างบ้านอีก


ค่าถมที่ ตกตารางวาละเท่าไร

เป็นคำถามที่โทรมาถามกันบ่อยมาก แต่ในทางการก่อสร้าง หรือ ในทางการถมดิน จะใช้ในลักษณะการวัดเป็น ตารางเมตร หรือ ลูกบาศก์เมตร (คิวละ) มากกว่า ซึ่งตารางวา จะใช้สำหรับ ขนาดของที่ดิน หรือ การซื้อขายที่ดินเป็นส่วนใหญ่

“ซึ่ง 4 ตารางเมตร จะเท่ากับ 1 ตารางวา”

ดังนั้น ถ้าเรารู้ค่าถมที่ดิน ต่อตารางเมตร และ นำมาคูณ 4 ก็จะกลายเป็น ค่าถมที่ ตารางวาละเท่าไร ได้ครับ แต่ถ้าจะได้ราคาค่าถมดิน ต่อตารางเมตร หรือ ตารางวานั้น จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มหลายอย่าง เพื่อประเมินราคาได้ ได้แก่

  • ความสูงเฉลี่ยในการถมที่ดิน ซึ่งแต่ละที่ดินมีระดับความสูงในการถมแตกต่างกัน เช่น 70 เซ็นติเมตร, 1 เมตร, 2 เมตร ก็มีราคาค่าถมที่ ต่อตารางวา แต่ต่างกัน
  • ชนิดของดิน มีผลกับราคาค่าถมดิน
  • ตำแหน่งของที่ดิน มีผลกับระยะทางในการขนส่งดิน
  • ขนาดของที่ดินทั้งหมดที่ต้องการถม จะเป็นภาพรวมของปริมาณดินที่ต้องใช้

ดินทราย วัสดุถมดิน ทำไมถึงมีราคาแพง

ดินทราย มีข้อสงสัยมากมายจากปากหลายคนที่จะเริ่มถมดินว่า ทำไม ทรายจึงมีราคาแพง ทั้งที่ประโยชน์ก็ไม่ค่อยมี ปลูกต้นไม้ก็ไม่ได้ วันนี้เราจะมานำเสนอความคิดของผู้รับเหมาถมดิน หรือ ที่เรียกว่า คนถมดิน ดูว่าทำไม ดินทราย ถึงมีราคาแพง

ดินทราย ตามที่รู้ๆกันว่ามีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ มีความเป็นกรด อีกทั้งอุ้มน้ำได้น้อยรากพื้นหรือต้นไม้แผ่ขยายรากได้น้อยหรือไม่ได้เลย ทำให้พืชไม่มีความเจริญเติบโต แต่เพราะสาเหตุใดจึงนำดินทรายมาใช้เป็นวัสดุถมที่ โดย

ดินทรายนั้น ถึงแม้ว่าในความคิดของใครหลายคนมีคำถามมากมายอยู่ในหัวว่าปลูกต้นไม้ก็ไม่ขึ้นและราคาแพงไปไหมเมื่อนำมาถมที่ มีประโยชน์ตรงไหนจึงเหมาะที่จะเอามาถมดิน แต่ในความคิดของ “ คนถมดิน “ ‘’ ดินทราย “ มีลักษณะหยาบ ละเอียด ของชิ้นส่วนเล็กๆ สามารถชอนไชไปในที่ต่างๆที่เป็นช่องว่างขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างชั้นดิน ทำให้ดินมีความหนาแน่น และมีการยุบตัวน้อยมาก ผู้รับเหมาถมดินจึงมักแนะนำให้ใช้ในงานก่อสร้างอาคารหรือที่พักอาศัยที่ต้องการความรวดเร็วเพราะดินทรายเมื่อทำการถมแล้วจะยุบตัวน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับดินประเภทอื่น และอีก 1 ประการคือ ระยะเวลาการอัดแน่นของดินใช้เวลาไม่นานไม่ต้องรอการแห้งของดิน และที่นิยมมากที่สุด คือ งานในด้านของถมดินทำถนน ลาดจอดรถ หรือ งานที่ต้องใช้รับน้ำหนักมาก และเหมาะที่สุดจะเป็นการถมดินบ่อน้ำที่มีน้ำขังไม่สามารถเอาน้ำออกจากบ่อได้ เนื่องจากดินทรายมีเม็ดละเอียดสามารถแทรกซึมในช่องรอยแยกของดินที่อยู่ในชั้นอีกทั้งยังไม่อุ้มน้ำ ทำให้ดินมีความหนาแน่นมาก และไม่ยุบตัว หรือยุบตัวค่อนข้างน้อย เพราะเป็นพื้นที่น้ำขัง จึงเหมาะสำหรับใช้ดินทรายในการถม ดินทรายนั้นไม่อุ้มน้ำทำให้ง่ายต่อการบดอัด ไม่ยุบตัวน้ำเมื่อน้ำแห้ง ซึ่งต่างจากการใช้ดินถนทั่วไป ที่มีราคาสูง และเสี่ยงต่อการยุบตัวเป็นอย่างมาก อาจมีการยุบตัวของดินสูงถึง 30-50 ซม. ในดินประเภทอื่นที่ไม่ใช่ดินทราย
ดินทรายในงานถมดิน มีราคาแพง
แต่ความเป็นจริงนั้น ดินทรายราคาไม่ได้แพงแต่เพราะดินทรายเป็นดินที่มีความละเอียดจึงทำให้คนถมดินนั้นคิดราคาดินทรายต่อรถต่อเที่ยวค่อนข้างสูง เพราะเวลานำดินใส่ในรถที่ใช้เคลื่อนย้ายปริมาณดินทรายที่ได้จะราคาเยอะกว่ามาก
เวลาถมดินทำไมใช้ดินทรายแล้วราคาจึงค่อนข้างสูง สาเหตุมีจากมวลของดินทรายและลักษณะเฉพาะตัวของดินทรายที่ไม่เกาะกันเป็นก่อนและไม่อุ้มน้ำเป็นเม็ดละเอียดเวลาที่ทำการถมดินจะสามารถบดอัดได้ง่ายและไม่เสี่ยงต่อการยุบตัวของดิน แต่ในส่วนของดินประเภทอื่นการบดอัดต้องใช้ความชำนาญค่อนข้างสูงเพื่อให้การบดอัดที่แน่น แต่ก็ยังต้องมีความเสี่ยงในการยุบตัวของที่ดินทีทำการถม รถสิบล้อ 1 เที่ยวเท่ากัน แต่ลองเปรียบเทียบความสูงของดินเมื่อทำการถมดินเสร็จเรียบร้อยแล้วว่าใช้ดินชนิดไหนมากกว่ากัน และเมื่อเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่งดินชนิดไหนมีการบยุบตัวมากกว่าเลือกชนิดของดินถมให้ถูกกับประเภทของงานช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก

116812381
images ลักษณะของดินทรายจะไม่อุ้มน้ำ

 

1 ถมดินเพื่อปลูกสร้างบ้านควรใช้ดินถมทั่วไป ดินดำ ดินนา ดินบ่อ

2ถมดินเพื่อสร้างโรงงานหรือถนนควรใช้ดินลูกรัง

3 ถมดินเพื่อปลูกต้นไม้ควรใช้หน้าดิน

One thought on “สาระความรู้งานถมที่ดิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *